นิยายชุด หงส์ขังรัก เล่ม 1-5 จบ (ขายยกชุด) ผู้เขียน เทียนอีโหย่วเฟิง

รายละเอียด : หงส์ขังรัก

หงส์ขังรัก 1

ฉู่อวี้ขนลุกชันไปทั้งร่าง นางไม่สามารถยับยั้งความหวาดกลัวตามสัญชาตญาณของร่างกายได้ เพียงรู้สึกว่าแม้แต่ในส่วนลึกสุดของกระดูกก็ยังสั่นสะท้านระคนเจ็บปวดได้ด้วยความอัปยศอดสูและถูกเหยียดหยาม เขากำลังถอดเสื้อผ้าของนาง แม้ในเวลานี้จะอยู่ในฐานะขององค์หญิงซานอิน ทว่าประสบการณ์ชีวิตในชาติก่อนได้ปลูกฝังอุปนิสัยของฉู่อวี้ นางไม่ใช่คนหลงระเริงเรื่องกามตัณหา ที่ส่งตัวชายยาใจออกจากวังไป ประการแรกก็เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก ประการที่สองก็เพราะนางไม่ต้องการ ในบางด้านบางบทบาท ฉู่อวี้กลับหัวโบราณยิ่งกว่าองค์หญิงซานอินคนในสมัยโบราณผู้นี้เสียอีก นางยืนหยัดในหลักการที่ว่าทั้งสองฝ่ายต้องพึงพอใจซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกันและเสมอภาค การกระทำของหรงจื่อได้ก้าวข้ามเส้นแบ่งของนางมาแล้ว

ที่หรงจื่อใช้ปากกัด เพราะมือทั้งสองของเขาล้วนไม่ว่าง จึงจำต้องใช้ปาก ฉู่อวี้เองก็รู้นางบอกตนเองว่าไม่ต้องไปใส่ใจ พยายามบังคับควบคุมสัญชาตญาณของตนเองไว้ อย่าให้ร่างกายแข็งขืนเกินไป ขณะเดียวกันก็พยายามคิดเรื่องอื่น เบนความสนใจของตนเองออกไป เมื่อครู่หรงจื่อบอกว่าสี่ปีก่อน ดูจากรูปร่างหน้าตาของเขาในเวลานี้น่าจะอายุราวสิบเจ็ดสิบแปด สี่ปีก่อนก็สิบสามสิบสี่ หรือว่าเขาอายุยังน้อยเท่านั้นก็ถูกองค์หญิงซานอินพึงพอใจแล้ว? หรือว่าข้าคาดเดาอายุของเขาผิด? หรงจื่อค่อยๆ ใช้ปากดึงคอเสื้อด้านหน้าของฉู่อวี้ออกไปข้างหนึ่ง แล้วเงยหน้าขึ้นระบายลมหายใจออกไปเบาๆ จากนั้นก็ก้มหน้าลงกัดคอเสื้อตัวในต่อ มีเสื้อผ้ากั้นขวางน้อยลงไปขั้นหนึ่งลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเป่ารดผิวหนังบริเวณลำคอของนาง ดวงตาของฉู่อวี้มองขึ้นไปบนท้องฟ้านิ่งไม่ขยับ คิดเสียว่าตนเป็นปลาตายตัวหนึ่ง

หงส์ขังรัก 2

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉู่อวี้ตัดสินใจเข้าวังหลวง หลังจากครั้งแรกที่ถูกเรียกตัวเข้าวังแล้ว ฉู่อวี้ก็เลือกเวลาเข้าวังเองส่วนใหญ่จะเป็นช่วงหลังจากฮ่องเต้หนุ่มเพิ่งเลิกประชุมขุนนาง เพราะหากอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในท้องพระโรงก็จะสามารถดูได้จากอารมณ์ของหลิวจื่อเยี่ยบวกกับเลียบเคียงถามอีกเล็กน้อย ซึ่งนั่นก็เพียงพอจะทำให้นางคาดเดาได้โดยสังเขปแล้ว วันนี้ก็เช่นกัน ทว่าตอนเข้าวังฉู่อวี้บังเอิญเห็นเทียนหรูจิ้งเข้าอีก เงาร่างในอาภรณ์สีม่วงดูเลื่อนลอยไม่แปดเปื้อนฝุ่นละอองนั่นกำลังเดินไปทางตำหนักฝ่ายในของหลิวจื่อเยื่ย รอจนเงาด้านหลังของเทียนหรูจิ้งหายลับสายตาไป ฉู่อวี้ย่นคิ้วน้อยๆ หันไปถามขันทีที่อยู่ข้างๆ "เขามาไล่ภูตผีปีศาจในวังอยู่เสมอหรือ" เวลาที่นางเข้าวัง ขันทีผู้นี้จะมาคอยนำทางให้นางทั้งขามาและขากลับเกือบทุกครั้ง ขันทีผู้นี้อายุราวสิบเจ็ดสิบแปด ฉู่อวี้รู้แล้วว่าเขาชื่อเสวียนอัน หลายวันมานี้นางจดจำเส้นทางในวังได้อย่างแม่นยำแล้ว การมีคนมาช่วยนำทางจึงเป็นเพียงพิธีรีตอง วางมาดให้สมฐานะเท่านั้น น้ำเสียงของเสวียนอันค่อนข้างเล็ก แต่เนื่องจากท่วงทำนองในการพูดต่ำนุ่ม จึงฟังแล้วไม่เสียดหู "พ่ะย่ะค่ะ" แม้เขาจะตอบอย่างถูกต้องตามแบบแผน แต่ฉู่อวี้ยังไม่พอใจ นางหยิบปิ่นทองออกมาจากแขนเสื้ออันหนึ่งแล้วยื่นให้เสวียนอันพลางยิ้มน้อยๆ "ยังมีอีก" เดี๋ยวนี้ในแขนเสื้อของฉู่อวี้มีปิ่นทองปิ่นเงินปิ่นหยกอย่างละหลายอันน้ำหนักเบาพกพาง่าย จะติดสินบนหรือป้องกันตัวก็สะดวกทั้งสองอย่าง ตอนยื่นให้ ฉู่อวี้ได้กลิ่นหอมจรุใจโชยมาจากร่างเสวียนอัน เพียงแต่บนร่างของนางก็มีกลิ่นหอมอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงแยกแยะได้ไม่ชัดเจน เสวียนอันรับปิ่นปักผมมาซุกไว้ในแขนเสื้อเงียบๆ แล้วกล่าวเสียงต่ำ "ในตำแหน่งฝ่ายใน มีวันไหนบ้างไม่มีคนตาย เมื่อมีคนตายมากเข้าก็ย่อมมีผีเกิดขึ้น"

หงส์ขังรัก เล่ม 3

ช่าง ช่างมั่วโลกีย์นัก ฉู่อวี้หันหน้ามา สิ่งแรกที่ผุดขึ้นในสมองคือคำคำนี้ในประทุนรถที่เมื่อครู่ยังสะอาดเรียบร้อย เวลานี้ถึงกับเปลี่ยนไปอยู่ในสภาพนี้แล้ว พรมปูพื้นรถยุ่งเหยิงยับย่นมีเสื้อผ้าวางกองอยู่สองชุด หีบที่วางอยู่ด้านใน สิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กล้มระเนระนาดอยู่กับพื้น ที่ทำให้ฉู่อวี้ ตื่นตะลึงเป็นที่สุดคือสภาพของหรงจื่อที่แนบร่างติดอยู่กับแผ่นหลังนางในเวลานี้ อีกทั้งเซียวเปี๋ยที่นอนอยู่ด้านใน หรงจื่นถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วเหลือเพียงเสื้อตัวในตัวเดียว เส้นผมดำดุจหมึกของเขาปล่อยยาวสยายไหลลื่นพลิ้วไหวลงมาที่หัวไหล่ หางตาหยักยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตายามกลอกไปมาดูงามหยาดเยิ้มยิ่ง คอเสี้ออ้าเผยอน้อยๆ ลำคอเรียวงามเกลี้ยงเกลา ทว่ามีรอยแดงน่าสงสัยหลายจุดคล้ายร่องรอยจุมพิตร้อนแรง หรงจื่อในยามนี้คล้ายถูกหลิ่วเซ่อกับโม่เซียงเข้าสิงร่างพร้อมกัน เซียวเปี๋ยก็มีสภาพแทบไม่ต่างไปจากหรงจื่อ เขานอนค่อนไปทางด้านในของประทนรถ เส้นผมหลุดลุ่ย ดวงตาหวานเยิ้ม เสื้อตัวนอกถูกถอดออก เผยแผงอกส่วนหนึ่งออกมา บริเวณที่เปล่าเปลื่อยมีรอยแดงอยู่เปี่ยมเสน่ห์ดึงดูดใจคน

หงส์ขังรัก เล่ม 4

เรื่องราวดำเนินมาถึงเล่มที่สี่กันแล้ว สำหรับมากกว่ารักพิเศษเรื่อง "หงส์ขังรัก" ที่สามเล่มก่อนหน้านี้ได้สร้างความประทับใจและทิ้งปมเรื่องไว้มากมายจนทุกท่านติดตามและรอคอยที่จะอ่านเล่มที่สี่กันแทบไม่ไหวเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ วันนี้การรอคอยสิ้นสุดลงแล้วค่ะ เตรียมตัวเตรียมใจไปพบกับความรักที่บีบคั้น การช่วงชิงอำนาจที่โหดเหี้ยม และการหักหลังที่ลบล้างทุกมิตรภาพที่เคยมีมา โดยในเล่มนี้ "ฉู่อวี้" ที่กำลังจะได้กลับไปสู่ยุคสมัยปัจจุบันอยู่รอมร่อกลับต้องผิดหวัง นอกจากจะไม่ได้กลับบ้านแล้วยังถูกหลิวจื่อเยี่ยเรียกเข้าวังหลวงในขณะที่กำลังจะมีการช่วงชิงอำนาจเกิดขึ้น โดยที่ไม่รู้จะหนีรอดพ้นเงื้อมมือของมัจจุราชได้อย่างไร ทั้งนางยังต้องเจ็บช้ำบาดลึกในหัวใจกับความรักที่มิอาจเป็นไปได้ แต่ทว่าจะบอกว่านางน่าสงสารเป็นที่สุดก็คงไม่ใช่ เพราะยังมีเทียนหรูจิ้งและฮวาชั่วที่น่าสงสารและน่าเห็นใจยิ่งกว่ามาก หมากกระดานนี้ใกล้จะหมดหนทางเดินเต็มทีแล้ว พวกเขาจะรักษาความหวังที่มีอยู่เพียงน้อยนิดในการมีชีวิตรอดและรักษาหัวใจที่บอบช้ำไว้ได้หรือไม่ เชิญพลิกกระดาษหน้าต่อไปพร้อมกัน

หงส์ขังรัก 5

และแล้วเล่มจบที่นักอ่านรอคอยก็มาพร้อมอยู่ในมือของทุกท่านแล้ว ความประทับใจและความสุขที่ชวนติดตามหลังจากที่อ่านเล่มหนึ่งถึงเล่มสี่ยังตราตรึงในหัวใจอยู่เลยนะคะ สำหรับมากกว่ารักพิเศษเรื่อง หงษ์ขังรัก เล่มสุดท้ายนี้จะเป็นการคลายปมสงสัย เปิดโปงแผนการต่างๆ ที่ตัวละครสร้างและเชื่อมโยงกันมา และยังเป็น "จุดจบ" ของอีกหลายชีวิตที่ถึงเวลาต้องปิดฉากลงไปพร้อมกับเรื่อง รับรองเลยค่ะว่าทุกท่านจะไม่อาจวางหนังสือเล่มนี้ได้ โดยในเล่มนี้ "ฉู่อวี้" ที่เด็ดเดี่ยวและเข้มแข็งมาโดยตลอดอาจจะต้องเสียน้ำตากันบ้าง เสียน้ำตาให้กับความรัก ความสูญเสีย และมิตรภาพที่ไม่มีวันได้กลับมา ส่วนหรงจื่อก็ถูกสาปแช่งของฮวาชั่วเล่นงานซะแล้ว ไม่ใช่เพราะคำพูดนั้นศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะใจของเขาเป็นเช่นนั้นมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก อีกทั้งการแย่งชิงอำนาจที่เว่ยเหนือก็ยังมีเรื่องให้เขาต้องห่วงกังวล "แม้จะรู้ว่าข้างหน้าคือหุบเหวลึกพันจั้ง เขายังคงต้องเดินไป เพราะฉู่อวี้อยู่บนขอบเหว" เมื่อถึงเวลาต้องเลือกระหว่างความรักกับอำนาจ หรงจื่อบุรุษผู้ไร้หัวใจไม่มีน้ำตาจะเลือกทางใด ใครจะได้อำนาจหรือความรักไป เตรียมตัวเตรียมใจไปพบกับความรักที่แสนบีบคั้น การช่วงชิงอำนาจที่เหี้ยมโหด และการหักหลังที่ลบล้างทุกมิตรภาพที่เคยมีมาอย่างอัดแน่นและเข้มข้นมากกว่าเดิม