รายละเอียด : A Taste of the Forbidden หลงกลรัก Super Rich เพลย์บอย
A Taste of the Forbidden หลงกลรัก Super Rich เพลย์บอย
"เจ้าสัวมานพ สินสมุทร" เจ้าของกิจการเดินเรือที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจ เสียงข่าวจากโทรทัศน์เครื่องเล็กตรงหน้าทำให้ฉันต้องแหงนหน้าขึ้นมองในจอสี่เหลี่ยม ปรากฏภาพชายสูงวัยหน้าตาใจดีในชุดสูท เป็นภาพที่ถ่ายเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ ฉันได้แต่มองแล้วถอนใจอย่างปลงๆ เช้าๆ แบบนี้แทนที่จะเป็นข่าวสดใสรับวันใหม่ จะพยากรณ์อากาศหรือข่างรายงานสภาพจราจรก็ว่ากันไปนี่อะไร ดันเอาข่าวคนตายมาอ่านให้ฟัง หดหู่รับวันใหม่เลยสินะแบบนี้ ไม่ได้การละ
ฉันละสายตาจากหน้าจอแล้วมาใส่ใจกับการถ้วยกาแฟหอมกรุ่นยามเช้าเพราะสภาพอารมณ์มีผลต่อการปรุงรสชาติ ฉะนั้นจึงต้องปรับอารมณ์เป็นการด่วน กาแฟเป็นสิ่งที่ฉันโปรดปรานมากที่สุดรองจากหนังสือ ดังนั้นฉันนึงมุ่งมั่นที่จะมีร้านเป็นของตัวเองให้ได้ เริ่มตั้งแต่เก็บเล็กผสมน้อยมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยบวกกับกู้เงินจากธนาคารมาเปิดร้าน Cafe Library แห่งนี้ ร้านของฉันเป็นตึกแถวสองคูหามีสองชั้น การตกแต่งภายในเป็นแบบโปร่งโล่ง เน้นสีขาวและเทาเป็นหลัก ชั้นแรกฉันทำเป็น Cafe มุมหนังสือและมุมออฟฟิศเล็กๆ สำหรับฟรีแลนซ์ที่ชอบทำงานแบบ Outdoor คือเป็นมุมที่ไม่ได้ใหญ่อะไรมามีห้องประชุมเล็กๆ สองห้องแล้วก็เป็นโต๊ะยาวมีช่องกั้นเป็นส่วนตัวสามแถบแม้ร้านฉันจะไม่เป็นที่นิยมแต่บอกเลยว่ามุมออฟฟิศส่วนใหญ่จะไม่เคยว่าง
นั่นเพราะร้านของฉันอยู่ในย่านธุรกิจที่มีคนพลุกพล่านตลอดและเดี๋ยวก็มีกลุ่มฟรีแลนซ์เพิ่มมากขึ้นด้วย แต่ส่วนอื่นๆ ก็ไม่ค่อยเท่าไร โดยเฉพาะมุมเกอรี คือไม่ใช่ว่าของร้านฉันไม่อร่อยนะ แต่ย่านนี้การแข่งขันสูงเหลือเกินโนเนมแบบฉันสู้เจ้าอื่นไม่ค่อยได้หรอก ส่วนชั้นสองเป็นที่พักอาศัย Cafe Library เปิดมาได้เกือบสามเดือนแล้ว อย่าถามถึงรายได้เลย มันไม่ได้ดีอย่างที่คิดหรอก แม้จะอยู่ในย่านธุรกิจก็เถอะแต่เขาว่ากันว่าช่วงแรกของการเปิดร้านก็ถูกไถแบบนี้แหละ เรื่องแบบนี้ต้องอาศัยเวลาและใช้ฝีมือเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ยังไงซะฉันก็ภูมิใจมากเพราะเป็นร้านที่ฝันอยากมีมาตั้งแต่เด็ก คิดมาเสมอว่าการนั่งอ่านหนังสือพร้อมๆ กับการทานขนมอร่อยๆ มันคงฟินสุดๆ ไปเลย แต่ดูเหมือนจะมีแค่ฉันนะที่คิดแบบนี้เพราะว่า ลูกค้าน้อยเหลือเกินน่ะสิ
อย่างที่บอกว่ารายได้ไม่มากนัก ฉันจึงไม่สามารถจ้างพนักงานได้งานทุกอย่างตกเป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว ในส่วนของมุม Cafe ไม่มีปัญหาอะไรเพราะฉันเรียนคหกรรมมา เรื่องเครื่องดื่มกับเบเกอรีเอาอยู่ แต่เรื่องทำความสะอาดร้านนี่สิเหนื่อยเอาเรื่อง เพราะฉันไม่ชอบให้ร้านดูสกปรกและทุกอย่างจะต้องเนี้ยบแม้แต่ฝุ่นก็ต้องไม่มีให้เห็น ด้วยความมีมาตรฐานสูงเกินไปงานที่ทำก็เลยเยอะตามไปด้วย แต่ก็นะ ถือซะว่าเหนื่อยวันนี้เพื่ออนาคตที่ดีในวันข้างหน้า
ดังนั้นทุกเช้าฉันจะลงมาตรวจความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะเปิดร้านแล้วก็เตรียมทำขนมไว้บ้างเพื่อต้อนรับแขก ลูกค้าที่เข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นฟรีแลนซ์ มีบ้างประปรายที่ตั้งใจมาอ่านหนังสือ บางคนที่มาก็เน้นทานขนมเพราะติดใจในฝีมือสุดอร่อยของฉัน ไม่ได้อวยตัวเองนะแต่มันเรื่องจริง ไม่เชื่อดูบนฝาผนังหลังเคาน์เตอร์สิ "ประกาศนียบัตรสถาบันกรูเมต์มอบให้ นางสาวแพรวไพลิน สุรเกียรติ" ใบประกาศนียบัตรของฉันไง การันตีจากสถาบันสอนทำอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกเลยนะ

