เมื่อลำแสงแรกแห่งอรุโณทัยสาดส่องลงบนอาณาจักรมะอาลีย์
อันกว้างใหญ่ไพศาล อุทยานดอกไม้อันตระการตาก็เผยโฉมอวดความ
งดงาม กลางสวนมีคนงานทำงานกันอย่างขะมักเขม้น ทั้งรดน้ำ พรวนดิน
และตัดแต่งกิ่งใบไม้ดอก พื้นที่อันกว้างใหญ่กว่าแปดร้อยเอเคอร์แบ่งเป็น
สองส่วนด้วยถนนสี่เลน ซึ่งตัดขนานไปกับแนวต้นปาล์มและสระน้ำที่
ประดับประดาไปด้วยบัวหลากสีรวมไปถึงน้ำพุเล่นระดับ และทอดตัวจาก
ประตูรั้วเหล็กโปร่งบานใหญ่จนถึงตัวคฤหาสน์หินอ่อนขนาดมหึมา
คฤหาสน์งามหลังนั้นก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กมั่นคง
กรุผนังด้วยหินอ่อนประดับด้วยอัญมณีเป็นลวดลายอย่างละเอียด ยาม
ต้องแสงตัวคฤหาสน์จะขาวโพลนระยิบระยับจับตา เมื่อประกอบกับ
ยอดโดมสูงใหญ่ที่ทาสีทองอร่ามด้วยแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนว่าที่นี่หาใช่
คฤหาสน์ธรรมดาไม่ แต่อาจเป็นถึงวังของสุลต่านสักพระองค์จากยุคกลาง
นั่นเลย
ทว่าความจริงแล้ว อาณาจักรอันงดงามดั่งสวนสวรรค์ฟิรเดาส
แห่งนี้เป็นเพียงที่พำนัก ของคนในตระกูลมะอาลีย์เท่านั้น พวกเขาไม่ได้มี
เชื้อสายสืบทอดมาจากสุลต่านองค์ใดเลย ผู้เป็นประมุขแห่งอาณาจักรนี้
คือ นายอบูฮะซัย มะอาลีย์ ผู้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีขึ้นมาจากกิจการน้ำมัน
ในสหรัฐอาหรับเอห์เดน ประเทศที่มีเขตแดนอยู่ติดกับอ่าวเปอร์เซียและ
ทะเลทรายรุบอัลคาลีอันกว้างใหญ่ไพศาลซึ่งมีน้ำมันเป็นทรัพยากร
ธรรมชาติหลัก
อบูฮะซันเป็นพระสหายสนิทกับสุลต่านไฟซาลมาตั้งแต่ครั้งยังเป็น
เจ้าชาย จึงไม่แปลกที่เขาจะได้สัมปทานขุดเจาะน้ำมันไว้ในครอบครอง
จากนั้นเขาก็ขยายอาณาจักรการค้าไปยังส่วนต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะ
เป็นวงการก่อสร้าง การขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำ รวมไปถึงเรื่องการ
ท่องเที่ยวและการโรงแรม
และสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นซึ่งทำให้ผู้คนหันมาสนใจท่องเที่ยวในเอห์เดน นั้น
ก็ไม่พ้นอาคารแปลกตาที่มาจากความคิดของอบูฮะซันด้วย นั่นคือ
ตึกแฝดสี่ที่ถูกขนานนามว่าบุรจญ์อัลเอห์เดน ซึ่งแปลว่าหอคอยแห่ง
เอห์เดนนั่นเอง
อาคารทั้งสี่นี้แม้จะไม่สวยงามโดดเด่นอย่างบุรจญ์อัลอาหรับหรือ
บุรจญ์อัลเคาะลีฟะฮ์ของนครดูไบ แต่ก็ได้รับการจดบันทึกว่าเป็นตึกแฝดสี่
ที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงสี่ร้อยสี่สิบสี่เมตร แบ่งออกเป็นหนึ่งร้อยสี่
ชั้น และเป็นตึกที่สูงเป็นอับที่สิบสามของโลก แถมทั้งสี่ตึกมีสกายบริดจ์
เชื่อมต่อกัยที่ชั้นสี่สิบสี่ โดยมีพื้นที่ทางเดินเชื่อมบางส่วนเป็นกระจก
มองลงไปเห็นสวนสาธารณะที่มีภูมิทัศน์สวยงามเบื้องล่าง เพื่อดึงดูด
นักท่องเที่ยวที่นิยมชมชอบความหวาดเสียวได้ดีอีกด้วย
ความคิดที่ทำให้อบูฮะซันสร้างตึกแฝดสี่นี้ เกิดจากการที่ลูกๆ ทั้งสี่
เดินทางไปเรียนต่างประเทศ อะซูล ลูกชายคนโตไปเรียนด้านการ
บริหารธุรกิจที่ประเทศอังกฤษ ฮัสซานัล ลูกชายคนรองไปเรียนวิศวกรรม
ที่เดียวกัน เช่นเดียวกับการีม ลูกชายคนที่สามซึ่งไปเรียนบริหารธุรกิจ
เหมือนอะซูล จะผิดแผกก็ตรงที่ลูกชายคนเล็กคือทารีก ไปเรียนวิศวกรรม
ปิโตเลียมที่สหรัฐอเมริกาเพียวคนเดียว ทำให้นางฟาติมาห์ผู้เป็นภรรยา
ของเขาคิดถึงลูกชายทั้งสี่มาก อบูฮะซันจึงสั่งให้สถาปนิกและวิศวกร
ของบริษัทก่อสร้างที่เขาเป็นเจ้าของอยู่ ออกแบบตึกให้เป็นสัญลักษณ์
แทนตัวหนุ่มๆ ทั้งสี่ โดยใช้เลขสี่เป็นแนวคิดในการออกแบบ เพราะฉะนั้น
ตึกจึงมีสี่หลังและมีความสูงสี่ร้อยสี่สิบสี่เมตร แต่ละตึกตั้งชื่อตามลูกชาย
แต่ละคน เมื่อถึงวันที่พวกเขาจบมา จะได้มาบริหารกิจการทั้งหลายแหล่
ที่เขามีอยู่ โดยตึกทั้งหมดสร้างเสร็จและเปิดใช้เมื่อสิบปีที่แล้ว ซึ่งเป็น
เวลาเดียวกับที่อะซูล ลูกชายคนโตเรียนจบกลับมาพอดี